เพราะทุกสิ่งทุกอย่างล้วนมีจุดเริ่มต้น เฉกเช่นกันกับเรื่องราวแห่งศรัทธาของสโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ ที่เริ่มต้นขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน จากแรงบันดาลใจที่ต้องการจะมีทีมฟุตบอลบ้านเกิด ของชายที่ชื่อ พีรพัฒน์ ถานิตย์
ปฐมบทของตำนานฟ้า-ขาว ชาวสมุทรปราการ 30 ตุลาคม 2551 สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ ก่อตั้งขึ้นโดยเป็นสโมสรสมาชิกของสมาคมกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ เลขที่สมาชิก 1507 พร้อมการลงนามรับรองจากท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอย่างถูกต้อง ให้สิทธิ์เป็นทีมฟุตบอลตัวแทนจังหวัดสมุทรปราการ พร้อมกับสมัครเข้าเป็นสมาชิกของสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพครั้งแรกของจังหวัดสมุทรปราการ ในรายการ "ลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2" ประจำปี 2009 และนี่คือทีมฟุตบอลอาชีพทีมแรกในจังหวัดสมุทรปราการ ทีมตัวแทนจังหวัด ทีมที่เต็มไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย
บันทึกบทที่หนึ่ง วันที่ 31 มีนาคม 2552 เวลา 16.00 น. คือวันที่ปฎิทินของสมุทรปราการเอฟซีถูกเปิดขึ้นในแผนที่ลูกหนังเมืองไทยอย่างเป็นทางการ โดยลงสนามในฐานะทีมเหย้า ต้อนรับการมาเยือน "สโมสรฟุตบอลโรสเอเชีย ปทุมธานี" ที่ "สนามฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ อุดมสุข" ผลการแข่งขันนัดประเดิมสนาม “ป้อมปราการ” สามารถต้อนเอาชนะคู่แข่งไปได้ 3-0 เก็บชัยชนะนัดแรก โดยได้ประตูจาก ปราโมทย์ บุตะโรต, วุฒิชัย ถิ่นทวี และ จียัมฟี่ อาดู โดยมี ปราโมทย์ บุตะโรต เป็นนักเตะประวัติศาสตร์ของสโมสรที่ทำประตูแรกให้กับสมุทรปราการเอฟซีได้ ในนาทีที่ 30
3 แต้มแรก ด้วยสกอร์ 3-0 และประตูแรกของสโมสรฯ เกิดขึ้นในนาทีที่ 30 ความบังเอิญ หรือ โชคชะตา?
ปรากฏการณ์ "ฟ้า-ขาว" ขวบปีแรกบนลีกอาชีพ สมุทรปราการเอฟซี สามารถสร้างฐานแฟนคลับได้อย่างรวดเร็วจากผลงานในสนามที่ลงเล่นด้วยสปิริต และหัวจิตหัวใจของยอดนักสู้ ทำให้กระแสแฟนบอล ฟ้า-ขาว เพิ่มมากขึ้น...มากขึ้น ในทุกๆ นัดที่ลงสนาม ชนิดไม่ต้องเสียเวลาโปรโมตหรือทุ่มทุนโฆษณาอะไรมากมายแม้แต่น้อย
แต่แล้ว “ป้อมปราการ” ที่กำลังทำผลงานในสนามได้อย่างยอดเยี่ยมเวลานั้น ต้องมาพบบททดสอบสำคัญเมื่อ สโมสรฯ กำลังจะต้องถูกยุบ ด้วยเหตุผลทางด้านการเงิน และสนามแข่งขันที่ไม่ผ่านสมาคมฯ เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างแรงกระเพื่อมขนาดใหญ่ให้กับแฟนบอลเลือดข้นทั้งหลาย ก่อนจะเกิดปรากฏการณ์ "ฟ้า-ขาว" ทั้งจังหวัด เพื่อช่วยพยุงให้สโมสรไม่ต้องล้มหายไปจากแผนที่ลูกหนังเมืองไทย อันนำมาซึ่งตำนานบทสำคัญที่เกิดขึ้นจาก "ศรัทธา" ของแฟนบอลจนเป็นที่กล่าวขวัญไปทั่ว
คอนเสิร์ตบ่าววีเพื่อสมุทรปราการเอฟซี คอนเสิร์ตแห่งแรงพลังศรัทธา "พ.อ.อ. วีระยุทธิ์ นานช้า" หรือที่เรารู้กันในวงกว้างว่า "บ่าววี" นักร้องชื่อดัง ผู้ก้าวเข้ามาเป็น "ศิลปิน-นักกีฬา" คนแรกของสโมสรสมุทรปราการเอฟซี ได้ทำการระดมทุนจากแฟนคลับเพื่อช่วยหาเงินในการพยุงสมุทรปราการเอฟซี ไม่ให้ต้องถูกยุบ ด้วยการจัดคอนเสิร์ตที่ชื่อว่า "บ่าววีเพื่อสมุทรปราการเอฟซี"
คอนเสิร์ตดังกล่าวได้รับการสนับสนุน และสนอกสนใจจากแฟนบอล รวมถึงสื่อมวลชนทั่วประเทศเป็นจำนวนมาก เพราะนี่ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์เมืองไทย ที่มีการจัดคอนเสิร์ตขึ้นเพื่อทีมฟุตบอลทีมหนึ่ง จนปรากฏการณ์ดังกล่าวถือเป็นเรื่องที่พูดถึงในวงกว้าง
"พลัง" จาก "ศรัทธา" ของแฟนบอลในวันนั้น ทำให้สมุทรปราการเอฟซี สามารถยืนบนเส้นทางของฟุตบอลอาชีพต่อได้ เพราะแรงกระเพื่อมจากคอนเสิร์ตดังกล่าว ยังผลให้จังหวัดสมุทรปราการมองเห็น "พลัง" อันบริสุทธิ์ของแฟนบอล จึงได้ช่วยเหลือเรื่องงบประมาณมายังสโมสรฯ จวบจนทุกวันนี้
พวกเราคือแชมป์ หลังจากผ่านเรื่องร้ายๆ มามากมาย พลังจากศรัทธาของแฟนบอลก็มาผลิดอกออกผลจนสมุทรปราการเอฟซี สามารถผงาดง้ำค้ำยุทธจักรลูกหนังภาคกลางฯ ชนิดที่ต้องลุ้นจนถึงวินาทีสุดท้ายของเกมกันเลยทีเดียว
สถานการณ์ในวันนั้น...สมุทรปราการเอฟซี ตามหลังผู้นำที่ชื่อ อยุธยา เอฟซี อยู่ 1 แต้ม ส่งผลให้โจทย์ในเกมนัดสุดท้ายของฤดูกาลของ “ป้อมปราการ” คือต้องเก็บ 3 แต้มให้ได้เท่านั้น พร้อมภาวนาให้ผลอีกสนามออกมาเป็นใจ
เกมดังกล่าว สมุทรปราการเอฟซีบุกไปเฉือนชนะโรสเอเชียถึงถิ่น ได้ประตูชัยจาก กฤษดา นาคพันธ์ พร้อมกับโยนความกดดันไปให้อยุธยา เอฟซี ที่สุดท้ายพลาดท่าบุกไปโดน สิงห์บุรี เอฟซี ไล่ตามตีเสมอไปด้วยสกอร์ 1-1
ส่งผลให้ สมุทรปราการเอฟซี เถลิงบัลลังค์แชมป์ภาคกลางอย่างยิ่งใหญ่ และดราม่าบีบหัวใจกองเชียร์จนก้อนเลือดที่หน้าอกข้างซ้ายแทบจะหยุดทำงานกันเลยทีเดียว นับเป็นแชมป์ครั้งแรกของสโมสรฯ ตั้งแต่ปีแรกที่เข้าร่วมแข่งขันลีกอาชีพ
ผู้เล่นคนที่ 12 เรียกเขาว่า "ฟอร์เทรสเซี่ยน" ผู้เล่นหมายเลข 12 ของสมุทรปราการเอฟซีไม่ใช่ผู้ตัดสินในสนาม ไม่ใช่มือลึกลับจากเบื้องบน ไม่ใช่ผู้มีอำนาจนอกสารบบ แต่ผู้เล่นคนดังกล่าวของสมุทรปราการเอฟซีคือ "ฟอร์เทรสเซี่ยน" แฟนบอลฟ้า-ขาว ผู้มีใจรักป้อมปราการป้อมนี้จนสุดหัวใจต่างหาก
พลังบริสุทธิ์จากกลุ่มกองเชียร์ที่ชื่อว่า "ฟอร์เทรสเซี่ยน" นี้ คือผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จทุกอย่างของสมุทรปราการเอฟซี ทุกนัด ทุกชั่วโมง ทุกนาที ทุกวินาที และทุกๆ หยาดเหงื่อที่นักฟุตบอลสมุทรปราการเอฟซีเสียไปในเกมการแข่งขัน ผู้เล่นคนที่ 12 คนนี้ ก็เหน็ดเหนื่อย และสูญเสียพลังงานไปไม่แพ้กัน
"พี่ระ" หรือ ธีระพงษ์ ราชดุษฏี กองหน้าตัวเก๋าของทีมเคยหล่นความในใจถึงผู้เล่นคนที่ 12 ไว้ว่า "แฟนคลับของสมุทรปราการเอฟซี เป็นแฟนคลับที่สุดยอดมากครับ เชียร์แล้วนักเตะมีความสุขที่สุด ทำให้เราอยากวิ่งไม่มีหมด เพราะสมัยที่ผมเล่นให้เทศบาลนครสมุทรปราการ มีแต่นักฟุตบอลนั่งดูกันเอง ขอบคุณแฟนคลับทุกคนนะครับ ที่ให้กำลังใจกันตลอดมา ขอสัญญาว่าจะทุ่มเทเพื่อทีมทุกนัดครับผม"
ด้วยสโลแกนการเชียร์สุดเท่ "90 นาทีไม่มีหยุด...สุภาพบุรุษ สมุทรปราการ" ทำให้ในทุกๆ นัดที่สมุทรปราการเอฟซีลงแข่งขัน ไม่มีเลยสักครั้งที่ความเงียบจะเข้ามากลืนกินอัฒจันทร์ฝั่งที่ "ฟอร์เทรสเซี่ยน" ไปยืนทำหน้าที่อยู่ นี่คืออีกหนึ่งเคล็ดลับและเป็นพลังขับเคลื่อนสำคัญที่ทำให้สมุทรปราการเอฟซี สร้างตำนานแล้ว...ตำนานเล่า จนสโมสรฟุตบอลสีฟ้า-ขาวสโมสรนี้ กำลังขยับเข้าใกล้ความเป็น "สถาบัน" เข้าไปทุกขณะ
ผนึกกำลัง สองสิงห์ ปี 2015 ถือเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์สำคัญของสโมสรฯ เมื่อคุณสมพร สิงห์รื่นรมย์ นักธุรกิจหนุ่มเจ้าของธุรกิจจำหน่ายอะไหล่รถจักรยานยนต์รายใหญ่หลายสาขา และเจ้าของฟุตบอลหญ้าเทียม สองสิงห์ อารีน่า สปอร์ตคลับ ได้ก้าวเข้ามานั่งแท่นรองประธานสโมสรฯ พร้อมทำหน้าที่ผู้จัดการทีม ผนึกกำลังกับสปอร์นเซอร์อย่าง ลีโก้ โคเงียว และออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ ทำให้ผลงานในปีนั้นเป็นที่จดจำอีกห้วงหนึ่งในหน้าประวัติศาสตร์สโมสร
รังเหย้าลำดับที่ 10 ใครจะเชื่อว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน “ป้อมปราการ” จะผ่านการใช้สนามเหย้าในการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพมาแล้วทั้งสิ้น 10 สนามด้วยกัน!!!
โดยไล่เรียงลำดับได้ตามนี้คือ สนามสโมสรฟุตบอลธนาคารกรุงเทพ (อุดมสุข), สนามฟุตบอลโรงเรียนนายเรือ จ.สมุทรปราการ,สนามกีฬามหาวิทยาลัยหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ, สนามการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.สมุทรปราการ (กกท. บางพลี), สนามกีฬาศูนย์เฉลิมพระเกียรติ (บางมด), สนามราชมังคลากีฬาสถาน, สนามเทพหัสดิน, สนามลาดกระบัง 54, สนามเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษามีนบุรี, สนามกีฬาจังหวัดสมุทรปราการ (สนามบางปลา), สนามกีฬาเทศบาลตำบลแหลมฟ้าผ่า
ในฤดูกาล 2020 ทีมสมุทรปราการเอฟซี ยังคงใช้ สนามการกีฬาแห่งประเทศไทย จ.สมุทรปราการ (กกท. บางพลี) เพื่อสร้างมวลชน และวากรากฐานในการพัฒนาทีมอย่างยั่งยืนต่อไป
“เพราะเราคือความภาคภูมิใจของจังหวัดสมุทรปราการ” ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย สมุทรปราการเอฟซี ยังคงหยัดยืนได้อย่างมั่นคง ด้วยขุมกำลังสายเลือดใหม่ ที่สร้างความภาคภูมิใจให้จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเป็นตัวแทนสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรปราการ คว้าตำแหน่งแชมป์ ในการแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ''มวก.นนทบุรี คัพ'' ครั้งที่ 24 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้ายที่มีการจัดการแข่งขัน มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่
โดยในทีมชุดนี้มี “เดอะดั๊ก” พงษ์สิริ ยะกัณฐะ หรือชื่อเดิมคือ ประพัฒน์ ยะกัณฐะ ตำนานกัปตันทีมผู้อยู่ร่วมทุกข์ ร่วมสุข ที่หวนกลับมาสวมปลอกแขนกัปตันทีม พาทีมประสบความสำเร็จคว้าแชมป์ ลำดับที่ 2 บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรฯ แห่งนี้
ปัจจุบันเกิดการเปลี่ยนแปลงระบบแข่งขันลีกอาชีพอีกครั้ง ในยุคการบริหารงานของ พลตำรวจเอก สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย มีการแบ่งระบบลีกอาชีพเสียใหม่ภายใต้การจัดของ บริษัท ไทยลีก จำกัด ตั้งแต่ฤดูกาล 2017 จะแบ่งออกเป็น 4 ระดับ โดย สมุทรปราการเอฟซี อยู่ในไทยลีก 4 โซนกรุงเทพปริมณฑล
ปี 2017 สุดท้ายที่ทีมก้าวสู่รอบแชมเปี้ยนส์ ลีก ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 3 บนหน้าประวัติศาสตร์สโมสรฯ ปีที่เข้มข้นไปด้วยอารมณ์ ดราม่า แม้สุดท้ายปีที่ 9 นี้ยังไม่ใช่คำตอบของคำถามสำหรับเป้าหมายเลื่อนชั้น แต่ก็มีหลากหลายเรื่องราวที่เชื่อว่ายังคงตรึงแน่นในหัวใจฟ้า-ขาว ทุกคน
สร้างเยาวชนเพื่อสร้างสโมสรอย่างยั่งยืน ปัจจุบันกีฬาลูกหนังเมืองไทยกำลังอยู่ในยุคทุนนิยม แต่ฝ่ายบริหารของสมุทรปราการเอฟซี กลับเห็นพ้องต้องกันว่าการสร้างสโมสรฟุตบอลอาชีพอย่างยั่งยืนได้นั้น ต้องเริ่มที่การวางรากฐานตั้งแต่ระดับเยาวชน โดยเน้นไปที่เด็กในท้องถิ่น เพื่อให้เกิดความรักในบ้านเกิด
สมุทรปราการเอฟซี ได้จับมือเป็นพันธมิตรกับโรงเรียนลูกหนังหลายต่อหลายแห่งในจังหวัด อาทิ โรงเรียนเทพศิรินทร์ สมุทรปราการ โรงเรียนราชวินิตบางแก้ว โรงเรียนอัสสัมชัญสมุทรปราการ ศูนย์ฝึกทักษะฟุตบอลกระทุ่มราย โรงเรียนราชวินิตบางเขน วิทยาลัยเทคโนโลยีพณิชยการาชดำเนิน พร้อมส่งทีมระดับเยาวชนเข้าร่วมแข่งขัน Thailand Youth League ลีกเยาวชนแห่งชาติ ประจำฤดูกาล 2017-2018 รวมถึงทำการเปิดสอนฟุตบอลอะคาเดมี่ เพื่อสรรค์สร้างเยาวชนร่วมกันเพื่อป้อนเมล็ดพันธ์เหล่านี้สู่ทีมจังหวัดสมุทรปราการในอนาคตต่อไป
สู่การเป็นทีมฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง สมุทรปราการเอฟซี ได้ทำการจดทะเบียนบริษัทขึ้นมาในชื่อ "บริษัท สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ จำกัด" สมาชิกของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ลำดับที่ 330 เพื่อการบริหารจัดการสู่ธุรกิจฟุตบอลอาชีพอย่างแท้จริง มีหลักฐานการทำทีมทุกอย่างที่โปร่งใส และสามารถตรวจสอบได้ โดยรายได้หลักของสโมสรฯ จะเกิดจากผลงานในสนาม อันจะนำมาซึ่งแฟนคลับ ก่อนกระจายออกวงกว้างสู่การได้รับการสนับสนุนจากสปอนเซอร์ และต่อยอดไปสู่การเป็น "แบรนด์" ชั้นนำ ที่สามารถยืนอยู่ได้ด้วยตัวเอง ตามแบบฉบับของทีมฟุตบอลอาชีพ
สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ ยังเดินหน้าพัฒนาอย่างเป็นระบบ ด้วยการดำเนินการจดแจ้งสโมสรกีฬาอาชีพ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมลีกอาชีพ กับการกีฬาแห่งประเทศไทย โดยเป็นสมาชิกเลขที่ 062 เพื่อให้ได้มาตรฐาน คลับไลเซนซิ่ง หรือ ข้อกำหนดที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (ฟีฟ่า)
ปัจจุบันสโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ ถือเป็นทีมในระดับ ไทยลีก 4 ลำดับต้นๆ ที่ผ่านเกณฑ์ คลับไลเซนซิ่ง ที่ทางสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กำหนดไว้ ทั้งในเรื่องโครงสร้าง การจัดการ สนามแข่งขัน ที่ถูกต้องตามมาตรฐาน
ก้าวต่อไปสู่เป้าหมายสูงสุด หลังจากต้องน้ำตาตก จากปัจจัยรอบด้านตลอดหลายปีที่ผ่านมา สมุทรปราการเอฟซียังคงไม่ละความพยายามในการต่อสู้เพื่อเลื่อนชั้นไปสู่ลีกในระดับที่สูงกว่านี้ เพื่อสร้างความภาคภูมิใจให้กับจังหวัดสมุทรปราการ
ข้อมูลจำเพาะเกี่ยวกับสโมสร
ชื่อทีมอย่างเป็นทางการ: สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ
ชื่อทีมภาษาอังกฤษ: Samutprakan Football Club
ฉายาของทีม: ป้อมปราการ (The Fortress)
ปีที่ก่อตั้ง: 30 ตุลาคม พ.ศ. 2551
สีประจำสโมสร: สีฟ้า-ขาว
มาสคอต: เจ้าสุดยอด
ชมรมเชียร์: Fortressians (ครอบครัวปราการ)
สนามแข่งขัน: สนาม กกท.บางพลี
ความจุ: 5,000 คน
ประธานที่ปรึกษาสโมสร: ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม (อดีตนายก อบจ.สป.)
ประธานสโมสร: พีรพัฒน์ ถานิตย์
ประธานบริหาร: เอกสิทธิ์ คุณานันทกุล
รองประธานบริหาร: อภิชัจ อินสว่าง
รองประธานสโมสร: ชวันรัตน์ สืบสกุลอนันต์
รองประธานสโมสร: จิตลดา สิทธิเลิศจรรยา (นายกสมาคมวิทยุฯ จังหวัดสมุทรปราการ)
ประธานอำนวยการสโมสร: อัครวัฒน์ มั่นปิยพงศ์
ผู้อำนวยการสโมสร: ศิริภัสสร ปิยนันทวารินทร์ (ผู้พิพากษาศาลสมทบ)
เลขาธิการสโมสร: บูรไท พัลลภดิษฐ์สกุล
ผู้จัดการทีม: พีรพัฒน์ ถานิตย์
ผู้ช่วยผู้จัดการทีม: บูรไท พัลลภดิษฐ์สกุล
ผู้จัดการทั่วไป: ชัยวัฒน์ ตรงจิตโสภณ
หัวหน้าผู้ฝึกสอน: พงษ์สิริ ยะกัณฐะ
เกียรติประวัติของทีม
• 2552: รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 กลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออก
• 2553: รองชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 กลุ่มภาคกลางและภาคตะวันออก
• 2553: ได้รับรางวัลทีมบริหารจัดการแบบมืออาชีพยอดเยี่ยมประจำ
• 2559: รางวัลชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ''มวก.นนทบุรี คัพ'' ครั้งที่ 24
• 2560: รองชนะเลิศ การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 4 โซนกรุงเทพปริมณฑล
ที่สุดของสมุทรปราการเอฟซี
สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ 555/395 หมู่ที่ 5 ต.บางเมือง อ.เมืองฯ สมุทรปราการ 10270 ประเทศไทย เลขประจำตัวผู้เสียภาษี 0115556013411
Samutprakan Football Club 555/395, Village No. 5, Bang Muang, Mueang Samutprakan, Samutprakan 10270 Thailand
Tel 081-3434-777 Email admin@samutprakanfc.com
กลับสู่ด้านบน • Back to the Top • Terms of Service & Privacy Policy • Colophon