H2H บิ๊กแมตช์แดนบูรพา

อีกเพียงไม่กี่วันศึกแห่งศักดิ์ศรี ที่เดิมพันถึง “โอกาส” สู่รอบ ชปล. ของ “ป้อมปราการ” ก็จะเริ่มขึ้น ก่อนที่มหาศึกแห่งทุ่งบูรพาจะฟาดแข้งกันในวันอาทิตย์นี้ ที่บทสรุปจะออกมาอย่างไรสุดจะคาดเดา โอกาสนี้เราจึงจับคีย์แมนของแต่ละตำแหน่งแบบ Head2Head มาวัดกันเพื่อปลุกกระแสก่อนเกมสำคัญ ใครเป็นใครไปตามอ่านกันได้เลย

ผู้รักษาประตู

สองผู้รักษาประตูดาวรุ่งที่อายุห่างกัน 2 ปี เรียนรู้ศาสตร์ลูกหนังมาจากรั้วโรงเรียนเดียวกันที่ ราชวินิตบางแก้ว ก่อนชีพจรลงเท้าทั้งคู่สู่เส้นทางอาชีพ

“จ่อย” จิรพัฒน์ กามนต์ ไปชุบตัวกับกบินทร์ ยูไนเต็ด ก่อนยึดตำแหน่งตัวจริงลงเฝ้าเสาให้ทัพ “หนุมาน” ในที่สุด แม้ฟอร์มโดยรวมไม่ถึงกับเด่นนัก แต่ก็เพียงพอให้ ฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค เอฟซี เลือกดึงสู่ทีมในช่วงเปิดตลาดเลก 2 ที่ผ่านมา น่าแปลกใจที่นายทวารหนุ่มรูปร่างดีใช่เวลาไม่นานปรับตัวเข้ากับต้นสังกัดใหม่ และออกสตาร์ทในตำแหน่งมือหนึ่งทีมในเลก 2 ได้ทันที จุดแข็งคงอยู่ที่จังหวะเซฟลูกยากที่มีให้เห็นเป็นประจำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมสำคัญๆ ที่มักไม่มีข้อผิดพลาดให้เห็นจากเขาคนนี้

“บิว” อรรถสิทธิ์ หะสัน นี่คือเด็กสร้างของ “ป้อมปราการ” ที่เริ่มต้นกับทีมมาตั้งแต่โค้กคัพ ก่อนต่อยอดสู่ทีมใหญ่ในปีที่ผ่านมา กับปีแรกบทบาทของนายทวารหนุ่มรายนี้คือตำแหน่งมือ 3 ที่ได้เรียนรู้ประสบการณ์จากโกลมือดีอย่าง วัชรพล บุญชั้น มาปีเต็มๆ ก่อนซีซั่นล่าสุดก้าวขึ้นมาเป็นตัวหลักของทีม แม้จะเข้าๆ ออกๆ แย่งตำแหน่งมือ 1 ในทีมกับนายทวารรุ่นพี่อย่าง ชัยยุทธ หงส์มาลา มาตลอดในฤดูกาลนี้ แน่นอนว่านี้คืออนาคตของทีมที่แม้ผลงานยังไม่ถึงกับโดดเด่น แต่เขาคนนี้ก็มีจังหวะเซฟสำคัญให้เห็นเป็นระยะ แม้ในเรื่องการตัดสินใจยังต้องเรียนรู้จากเกมจริงอีกเล็กน้อยก็ตาม

กองหลัง

คาดว่า “บิ๊กแมตช์” ในวันอาทิตย์นี้งานหนักคงตกอยู่ที่แนวรับของทั้งสองทีมที่ต้องอาศัยลูกหนัก ตัดดุ ทำลายเกมรุกคู่แข่งกันตลอด 90 นาที และชัดเจนเหลือเกินว่าผลงานของบรรดาแนวรับเหล่านี้มีผลต่อการแข่งขันเหลือเกิน

"เอก" กิตติคุณ บุญเจริญธรรม ปราการหลังกัปตันทีมลูกหลานเมืองแปดริ้ว เล่นในตำแหน่งแบ็กขวา ถือว่าเป็นคีย์แมนสำคัญที่ปลุกทีมมีผลงานดีอีกครั้งในเลกที่ 2 ด้วยสไตล์การเล่นแบบดุดัน กัดไม่ปล่อย ก็เป็นงานยากเหลือเกินที่แนวรุกคู่แข่งจะผ่านไปได้โดยง่าย และนอกจากเกมรับที่เหนี่ยวแน่นแล้ว ในเลก 2 นี้แบ็กหน้าแก่รายนี้ยังแอสซิสต์ให้เพื่อนพังประตูไปแล้ว 3 ครั้งด้วยกัน

“เดี่ยว” มานะศักดิ์ ใจทน เซนเตอร์ฮาล์ฟกัปตันทีมสมุทรปราการ ถือเป็นแกนหลักในแนวรับทีมในซีซั่นนี้ ด้วยสไตล์การเล่นที่กัดไม่ปล่อย และมีลูกล่อลูกชน ที่ทำเอากองหน้าคู่แข่งต้องหัวเสียมานักต่อนัก อีกทั้งแนวรับเจ้าของเสื้อหมายเลข 5 ยังมีการอ่านเกมที่ดี แม้ในบางครั้งอาจชอบเติมเกมรุก และหลุดตำแหน่งไปบ้าง แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่านี่คือแนวรับเบอร์ต้นๆ ของทีม

กองกลาง

พื้นที่สุดสำคัญในเกมการแข่งขันนั่นคือแดนกลาง ที่ว่ากันว่าหากทีมไหนชิงพื้นที่แดนกลางสนามได้แล้ว ก็ลุ้นได้ถึงผลชนะ “บิ๊กแมตช์” นัดนี้ก็เช่นกัน

"วุธ" สราวุธ เชิญชัย นี่คือคีย์แมนสำคัญที่มีผลต่อเกมการแข่งขันทัพ “ปลากัดนักสู้” อย่างแท้จริง แม้จะเล่นในพื้นที่กลางสนาม แต่จุดเด่นของแข้งเลือดสมุทรปราการรายนี้คือ การพังประตู โดยเฉพาะลูกฟรีคิก ที่นับได้ว่าเป็นเครื่องหมายการค้าของดาวยิงรายนี้ดั่งที่เคยทำแสบกับ “ป้อมปราการ” มาแล้วในบอลถ้วยเมื่อช่วงต้นซีซั่น ซึ่งสถิติ 11 ประตูที่ส่งเขานำในตำแหน่งดาวซัลโวสูงสุดของลีกดิวิชั่น 2 เทียบเท่า เอริวัลโด้ ในเวลานี้

“เจ” อานนท์ ขอสืบ มิดฟิลด์ตัวคุมจังหวะของสมุทรปราการ ถือเป็นแกนหลักสำคัญของสมุทรปราการ ในซีซั่นนี้ แม้ไม่โดดเด่นในเรื่องของการเดินเกมรุกมากนัก ดังสถิติที่ระบุว่าเขาทำเพียง 1 แอสซิสต์ตลอดการลงสนามให้ทีม อย่างไรก็ดีในความไม่โดดเด่นกลับเป็นสิ่งที่พิเศษที่ทำให้แดนกลางทีมดูไหลลื่น ด้วยสไตล์การเล่นที่ไม่ซับซ้อน เน้นผ่านบอลให้เพื่อนเป็นสำคัญ เซนต์ฟุตบอลที่ไม่ได้เป็นรองใคร แม้นี้จะเป็นเพียงซีซั่นแรกในลีกอาชีพของกองกลางวัย 25 ปีก็ตาม

กองหน้า

เพราะฟุตบอลวัดกันที่การทำประตู ชัดเจนว่าพื้นที่แนวรุกนั้นมีความสำคัญ และนี่คืออาวุธหนักที่เอาไว้ทำลายเกมรับคู่แข่ง และนี่คือพื้นที่ไฮไลท์สำคัญของเกมนัดนี้ที่จะชี้วัดว่าฝั่งไหนกันที่คู่ควร 3 แต้ม

"มายด์" ณัฐพล ผาวันดี กองหน้าดาวรุ่งที่ย้ายจากนครนายก เอฟซี สู่โหล “ปลากัด” ในซีซั่นนี้ แม้ในช่วงต้นฤดูกาลบทบาทส่วนใหญ่ที่เขาได้รับคือ “สำรอง” แต่หลังจากการจากไปของ ยู คูโบกิ ก็ทำให้ “โอกาส” ของเขาเริ่มขึ้นอย่างจริงๆ จังๆ ในเลกที่ 2 แม้กองหน้าจอมแกร่งรายนี้จะเพิ่งกดไป 1 ประตู แต่คงประมาทไม่ได้เป็นอันขาด เพราะในปีที่ผ่านมาเขาคนนี้ก็เคยทำคนเดียว 2 ประตูในเกมแบ่งแต้ม สมุทรปราการ 3-3 มาแล้ว

“กาบี้” กาเบรียล มินตา กองหน้าที่ดีที่สุดของทีมสมุทรปราการ เอฟซี ในปี 2016 แม้นี่คือปีแรกสุดในการค้าแข้งในแผ่นดินไทยก็ตาม แต่เขาใช้เวลาปรับตัวไม่นานนัก และก้าวสู่ขวัญใจของแฟนบอลได้อย่างง่ายดาย ด้วยสไตล์การเล่นแบบทุ่มสุดตัว แข็งแกร่ง รวดเร็ว และวิ่งเข้าหาคู่ต่อสู้ตลอดเวลา ก็สร้างงานหนักให้แนวรับคู่แข่งมานักต่อนัก สถิติ 3 ประตู 5 แอสซิสต์ คงตอบความอันตรายของเขาได้ดี และเกมนี้หาก “ป้อมปราการ” หวัง 3 แต้ม ก็ต้องลุ้นให้ 3 ประสาน G.O.D. ทำงานเท่านั้นเอง

บิ๊กแมตช์แห่งทุ่งบูรพา หนที่ 17 บทสรุปจะออกมาอย่างไร ร่วมเป็นสักขีพยานไปด้วยกัน ในวันอาทิตย์ที่ 31 ก.ค. 59 เวลา 18.30 น. เป็นต้นไป ณ สนามเทศบาลเมืองฉะเชิงเทรา “ปลากัดนักสู้” ฉะเชิงเทรา ไฮ-เทค เอฟซี พบ "ป้อมปราการ" สมุทรปราการ เอฟซี … เพราะนี่คือที่สุดของที่สุด “บิ๊กแมตช์” แห่งลีกดิวิชั่น 2 โซนตะวันออก ที่ต่างยอมความกันไม่ได้อย่างแท้จริง