TIMELINE : ซีซั่น 2016 ยังบลัดปราการ

ปิดฉากการแข่งขันลีกดิวิชั่น 2 ฤดูกาล 2016 ซึ่งเป็นปีที่มีเหตุการณ์สำคัญๆ เกิดขึ้นในวงการลูกหนังไทยไม่น้อย ตั้งแต่เริ่มเปิดฉากการแข่งขัน อย่างไรก็ดีการแข่งขันยังคงเดินหน้าต่อไปจนได้ โดยแม้บทสรุป สมุทรปราการ เอฟซี ไม่อาจทำอันดับสู่รอบ ชปล. ได้สำเร็จอีกสมัย รวมถึงลีกใหม่ที่ชื่อ ชปช. (ที่ฝ่ายจัดมาคิดตั้งเอาเมื่อเข้ากลางฤดูกาล)

แต่หากมองตามจริง ด้วยขนาดทีมที่เล็ก เงินทุนที่แทบน้อยที่สุดในโซน ชื่อนักเตะที่ชวนเรียกเสียงยี้ตั้งแต่ก่อนเริ่มฤดูกาล แต่ “ป้อมปราการ” ในยุค “ยังบลัด” ก็สามารถจบในพื้นที่กลางตารางได้ในที่สุด และนี้คือบทสรุปสำคัญๆ ที่เป็นจุดเปลี่ยนให้กับ “ป้อมปราการ” สมุทรปราการ เอฟซี ในปีนี้ว่าเกิดอะไรขึ้นบ้าง

หยุด...หรือว่าจะเดินไปต่อ?

หากยังพอจำกันได้ ช่วงระหว่างรอยต่อฤดูกาล เป็นห้วงที่เกิดข้อคำถามถึงอนาคตของสโมสรฯ ไม่น้อย ว่าจะหยุดทุกอย่างลงเพียงเท่านี้ หรือว่าจะส่งทีมเข้าแข่งขันต่อไป ท่ามกลางความอึมครึม สุดท้าย “บิ๊กเผือก” พีรพัฒน์ ถานิตย์ ประธานสโมสรฯ ตัดสินใจส่งทีมรักเข้าร่วมแข่งขันต่อไป

และให้หลังจากนั้นไม่กี่สัปดาห์ทีมมอบหมายให้ “บิ๊กป๊อป” พรเทพ ดารากร ณ อยุธยา ทำหน้าที่ผู้จัดการทีม พร้อมตั้ง “โค้ชตือ” สัญญา ศิริ เข้ามารับหน้าที่หัวหน้าผู้ฝึกสอน ด้วยงบที่จำกัด นักกีฬาชุดนี้จึงชื่อชั้นแทบไม่กระดิกหู ท่ามกลางการปรามาศจากแทบทุกฝ่ายว่าคงต้องใช้เวลาส่วนใหญ่ในพื้นที่ท้ายตารางเป็นแน่…

ย้ายรังเหย้า สู่ กกท.บางพลี อีกครั้ง

สโมสรฟุตบอลจังหวัดสมุทรปราการ พยายามเดินหน้าสู่มาตรฐานระดับอาชีพ แม้จะอยู่ในขวบปีที่ลำบากไม่น้อยก็ตาม สุดท้ายทีมก็ได้รับความเห็นชอบจากผู้ใหญ่ทุกฝ่าย จนที่สุดก็ได้มาใช้สนาม กกท.บางพลี (เอ็มพาวเวอร์ สเตเดี้ยม) ร่วมกับ โอสถสภา เอ็ม-150 สมุทรปราการ (ซุปเปอร์ พาวเวอร์ สมุทรปราการ)ทีมในศึกไทยลีก

นี่คือก้าวสำคัญอีกครั้งของสโมสรฯ ที่จัดการทุกสิ่งอย่างแบบทีมชั้นนำ และคงปฎิเสธไม่ได้ว่า “รังเหย้า” สมุทรปราการ ฤดูกาล 2016 ดีกว่าทุกทีมร่วมลีกดิวิชั่น 2 แน่นอน

แรงกดดันที่ทำทีมไปไม่สุด

แม้ขุมกำลังชุดนี้อาจได้ชื่อว่าขี้ริ้วขี้เหร่ที่สุด อย่างไรก็ดี ยังบลัดปราการ ก็ตบทุกคำปรามาศแทบหมดสิ้น เมื่อออกสตาร์ทได้อย่างร้อนแรง แบบเหลือเชื่อ ซึ่งส่วนหนึ่งต้องชื่นชมแรงกระหายของแข้งสมุทรปราการทุกคนที่เต็มที่ทุกเม็ดยามลงสนาม รวมถึงกึ๋นของกุนซือใหญ่ ที่นำพาฟอร์มร้อนแรงสู่ทีม

แม้ในเวลาต่อมาทีมจะค่อยๆ แผ่วลงไปก็ตาม ส่วหนึ่งคงเพราะทุกคนเริ่มต้นจากศูนย์ แต่กลับร่ายฟอร์มได้ดีแต่ต้นทำให้ความคาดหวังของแฟนบอลเพิ่มมากขึ้นเป็นทวีคูณ และในที่สุดทีมก็ไม่อาจรักษามาตรฐานการเล่นที่ดีไว้ได้ ทั้งการหลุดฟอร์มไม่ชนะทีมใดนานหลายนัดติดต่อกัน หรือจะเป็นการเสมอ เบญจมราชูทิศ ทีมแจกแต้มประจำโซนทั้งไป-กลับ ที่เป็นผลงานย่ำแย่ที่เป็นที่จดจำในปีนี้

We Are Prakan We Are The Champions!

cr.ฟุตบอลสยาม

ผลงานในลีกอาจไม่บรรลุเป้าหมาย แต่อย่างน้อยๆ สมุทรปราการ เอฟซี ชุดปี 2016 ก็คว้าความสำเร็จมาครองได้อย่างเหนือคาด หลังสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสมุทรปราการ มอบหมาย “ป้อมปราการ” ร่วมแข่งขัน มวก.นนทบุรี คัพ ช่วงกลางเลก 2 ที่เชื่อว่า ณ เวลานั้นหลายเสียงแฟนบอลอาจไม่เห็นด้วยกับการที่ทีมเข้าร่วมแข่งขัน เพราะทีมกำลังเข้าสู่ช่วงผลงานระส่ำพอดิบพอดี

อย่างไรก็ตาม เด็กๆ ในคาถาของ “โค้ชตือ” ก็ตอบทุกข้อสงสัยของทุกคนลงด้วยผลงานในสนาม หลังส่งทีมชุดผสมสลับหน้าสร้างผลงานกรุยทางสู่แชมป์เก่าแก่ใบนี้มาสู่จังหวัดสมุทรปราการในที่สุด นับเป็นรางวัลชนะเลิศลำดับที่ 2 ของสโมสรฯ หลังจากเคยซิวแชมป์ดิวิชั่น 2 โซนตะวันออก ปี 2009 มาก่อนหน้านี้

ดาวรุ่งปราการ กับอนาคตที่สดใส 

แม้ภาพรวมตลอดฤดูกาล สมุทรปราการ เอฟซี อาจจบในพื้นที่กลางตาราง และผลงานในสนามต่างมีทั้งดี แย่ ปะปนกันไป แต่คงปฏิเสธไม่ได้ว่าในปีนี้มีแข้งโนเนมที่สร้างชื่อในสีเสื้อ ฟ้า-ขาว ไม่น้อย ไล่ตั้งแต่ “ครูต้า” พรชัย พูลผล จากดาวยิงนอกลีกสู่ดาวซัลโวร่วมของทีมในซีซั่นนี้ ไม่แตกต่างจาก ฮามีรูล เจ๊ะอาแซ เด็กจากแดนใต้ที่กลายเป็นขวัญใจของสาวก “ป้อมปราการ” โดยง่ายดาย

มิพักเอ่ยถึง กาเบรียล มินตา กองหน้าผิวสีที่สร้างความปั่นป่วนให้แนวรับคู่แข่งนักต่อนัก จนหลายทีมให้ความสนใจดึงตัวร่วมทีม และอีกหลายรายที่ล้วนสอบผ่านในขวบปีแรกของเวทีฟุตบอลอาชีพ อาทิ วีระยุทธ แจ่มเจริญ, อานนท์ ขอสืบ, กฤษณพงษ์ ชุมมวล, มานะศักดิ์ ใจทน, กฤษดา สมวาจา ฯลฯ ซึ่งแข้งทุกรายที่กล่าวมาล้วนอายุยังน้อย และยังมีอนาคตค้าแข้งที่สดใสรออยู่

การคืนสังเวียนของตำนาน

ในปี 2016 ยังนับได้ว่าเป็นปีที่สุดพิเศษของตำนาน “ป้อมปราการ” พงษ์สิริ ยะกัณฐะ หลังลงสนามในฐานะตัวจริงในเกมลีกนัดถลุงกบินทร์ 3-0 โดยเป็นการคืนสนามในเกมลีกในรอบกว่า 5 ปีแล้วตำนานมีชีวิตในถิ่น “ป้อมปราการ” ยังเพิ่มสถิติลงสนามสูงสุดตลอดกาลของสโมสรฯ ที่จำนวนเกม 68 นัด รวมถึงทำลายสถิติผู้เล่นอายุมากที่สุดที่ลงสนามให้ สมุทรปราการ เอฟซี ที่อายุ 37 ปีกับอีก 154 วัน อีกทั้งในรายการ มวก.คัพ “เดอะดั๊ก” ยังรับหน้าที่ตัวหลัก และกัปตันทีมกรุยทางสู่แชมป์ได้สำเร็จอีกด้วย

บนบันทึกหน้าสุดท้ายของปี 2016 ล้วนมีเรื่องราวดีๆ ให้หยิบจับ และจดจำกันไป และต้องถือโอกาสนี้ ขอบคุณนักกีฬา ทีมสตาฟฟ์ ทั้งหมดทุกคน ที่มีส่วนร่วมต่อผลงานในปีนี้ เช่นกันกับผู้สนับสนุนทุกท่าน ผู้ใหญ่ในจังหวัดทุกคน ที่ยังคงให้การสนับสนุนด้วยดีตลอด และที่ขาดไม่ได้คือ “แฟนบอล” ที่ยังคงเป็นแรงสนับสนุนสำคัญ และเป็น “พลังงาน” ที่ช่วยหล่อเลี้ยงหัวใจ “ป้อมปราการ” นี้ให้คงอยู่ต่อไป ...ขอบคุณจากหัวใจ...