ฝากอะไรถึงแฟนบอลสั้นๆ

เด็กน้อยชาวหนองคาย ในวัยเด็กติดตามดูคุณพ่อลงเตะฟุตบอลมาไม่น้อย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักที่มีต่อเกมลูกหนัง จนเมื่อครั้งอยู่ประถม 6 เด็กน้อยรายนี้ก็หลงเสน่ห์อย่างหัวปักหัวปำ หลังได้เห็นมนต์สเน่ห์จากปลายเท้าคู่นั้นของ โรแบร์โต้ บาจโจ้ ศิลปินลูกหนังตำนานทีมชาติอิตาลี ที่วาดลวดลายในศึกเวิลด์คัพ 94 ที่สหรัฐอเมริกา และนั่นคือจุดเริ่มต้นของการสวมสตั๊ดลงไล่หวดก้อนความฝันของเด็กน้อยรายนี้...

ความที่เป็นเด็กร่างบาง โค้ชฟุตบอลโรงเรียนตัดสินใจจับเขาเล่นตรงกลางสนาม ในตำแหน่งกองกลาง ซึ่งเขาเองก็ทำได้ดีพอตัว ด้วยความที่จริงจังกับเจ้าลูกกลมๆ มาก ทำให้หนุ่มน้อยรายนี้ติดทีมโรงเรียนเพื่อเข้าแข่งขันกีฬาจังหวัด และได้มีโอกาสเข้ามาแข่งในระดับประเทศครั้งแรก ที่สนามศุภชลาศัย เพื่อร่วมแข่งขันในรายการโอวัลติน พาวเวอร์คัพ จากผลงานในรายการดังกล่าวดีพอที่จะเรียกความสนใจจากโค้ชโรงเรียนกีฬาสุพรรณบุรี ที่เดินหน้าทาบทามทันที

ด้วยคุณพ่อรับราชการตำรวจ และอยากเห็นลูกชายรับราชการด้วยเช่นกัน ทำให้สุดท้ายเจ้าตัวตัดสินใจเลือกที่จะมาสอบที่โรงเรียนจ่าอากาศ โดยใช้ทักษะเชิงลูกหนังที่มีสอบเข้าในโควต้านักฟุตบอล และก็เป็นไปตามที่หวังเมื่อเขาได้มีโอกาสเรียนที่นี่ มีโอกาสได้ร่วมทีมกับนักเตะระดับตำนานของทหารอากาศหลายๆ คน

แต่ตำแหน่งแดนกลาง ทอ. ในสมัยนั้นยากที่จะสอดแทรก เพราะมีแต่แข้งระดับพระกาฬมากมาย ทำให้ พ.อ.อ.ประสิทธ์ แดงดา (พ่อของเจ้ามุ้ย) ที่ดูแลทีมอยู่นั้น จับเขามาเล่นในตำแหน่งแบ็กขวา เพราะเห็นความฟิต เติมเกมรุกได้ดี และมีวินัยกับเกม จากนั้นเขาก็รับสัมปทานในตำแหน่งแบ็กขวาทหารอากาศมาโดยตลอด

รับใช้ ทอ. ลงแข่งขันทุกรายการนับรวมได้ 10 ปี จนปี 2554 ได้มีโอกาสมาเล่นทีมปทุมธานี เอฟซี ก่อนที่ปี 2555 ย้ายมาเล่นราชประชาเอฟซี ในศึกยามาฮ่าลีก 1 ถัดมาปี 2556 ย้ายมาเล่นซีคเคอร์ ฟุตเทล่า น้องใหม่ในลีกรากหญ้า และอย่างที่เราๆ ท่านๆ ทราบกันในปีที่ผ่านมาเจ้าตัวย้ายมาสวมเสื้อฟ้า-ขาว ของ “ป้อมปราการ”

นี่คืออีกหนึ่งผู้เล่นมากประสบการณ์ที่ผ่านสังเวียนฟาดแข้งมาอย่างโชกโชน แม้ปัจจุบันอายุจะไม่น้อยแล้ว แต่สภาพร่างกายยังยอดเยี่ยม และพร้อมจะเติมเกมกราบขวาแบบไม่มีหมดให้สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี

No.25 “จ่าบอล” เจษฎาภรณ์ พรหมจรรย์