ทฤษฎีสมคบคิด

เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายจริงๆ สำหรับการแข่งขันฟุตบอลลีกภูมิภาค ดิวิชั่น 2 ในทุกโซน โดย ณ เวลานี้ก็มีหลายทีมที่ทยอยตบเท้าไปสู่รอบ ชปล. กันบ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็น ศุลกากร ยูไนเต็ด ในโซนกรุงเทพ, สมุทรสาคร เอฟซี ในโซนตะวันตก, อุบล ยูเอ็มที และ ขอนแก่น ยูไนเต็ด ในโซนอีสาน, ระยอง เอฟซี ในโซนภาคกลางตะวันออก เราที่กรุยทางไปสู่รอบ ชปล. เป็นทีมแรก

ซึ่งอีกแค่เพียงไม่กี่อึดใจข้างหน้านี้ เราๆ ท่านๆ จะได้ทราบว่า ทีมใดบ้างจะสุขสมหวัง และขยับเท้าไปแข่งรอบต่อไปที่เดิมพันสูงขึ้น นั่นคือการไปสู่ ดิวิชั่น 1…

เชื่อว่าแฟนบอลเลือดฟ้า-ขาว ไม่น้อยยังอึกอัก และนึกเสียดายไม่หายหากจุดโทษลูกนั้น แฟรงค์ เรโน่ ซัดเข้าไปไม่พลาดเป้า คงไม่ใช่ “ปลากัด” แต่เป็น “ปราการ” ที่ยึดแท่นที่ 2 และรักษาโอกาสไว้ในมือตนเอง แต่อย่างว่านี่แหละฟุตบอลที่ไม่อาจจะคาดเดาอะไรได้เต็มร้อยเสียเมื่อไหร่ และสุดท้ายทำให้เรายังต้องมาลุ้นอย่างจดจ่อกันใน 2 นัดสุดท้ายอย่างที่เป็นอยู่นี้

ใครหลายคนคงนั่งคิด นอนคิด ตะแคงคิด กันบ้างแล้วว่า ผลสุดท้ายที่ออกมาหน้าไหน มุมไหน จะส่งผลบวกกับทีมรักตนได้ที่สุด ฉะนั้นเราจึงขอสรุปเพื่อทราบอย่างละเอียดอีกครั้ง

มาว่ากันที่กฎเกณฑ์ในการผ่านสู่รอบ ชปล. ใช้อะไรมาพิจารณากันบ้างในกรณีที่คะแนนสรุป 26 นัดออกมาเท่ากัน โดยไล่เป็นข้อๆ ตามกลไกการพิจารณา ดังนี้

1. นับ H2H (ไม่นับสกอร์)

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี, สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี และปราจีน ยูไนเต็ด 3 ทีมนี้หาผู้ชนะกันไม่ได้ในข้อนี้เนื่องจากผลัดกันแพ้ชนะแบบบ้านใครบ้านมันทั้งหมด แต่ยังเหลืออีกทีมที่ยังต้องลุ้นกันในนัดสุดท้ายที่ จันทบุรี เอฟซี ที่ว่ากันว่าอาจเกิดดราม่าได้เช่นกัน หากผลในวันเสาร์ที่เมืองปราจีน จบลงที่ผลเสมอ

2. พิจารณาจำนวนครั้งที่ชนะ

ในเวลานี้ต้องบอกว่าทุกทีมที่ยังลุ้นตั๋วอยู่นั้นสูสีกันอย่างมาก ดังจะเห็นว่าเหลือเพียง 2 นัดท้าย ทั้งฉะเชิงเทรา, สมุทรปราการ, ปราจีน และจันทบุรี ชัยชนะทุกทีมหยุดเท่ากันที่ 13 นัด แต่อย่างไรก็ตาม การที่ยังมีอีก 2 คู่ ที่จะต้องตัดแต้มกันเองในนัดรองสุดท้าย และนัดสุดท้ายนั้น ตรงนี้แหละที่จะเป็นตัวชี้วัด ด้วยเงื่อนไขตั้งต้นง่ายๆ คือต้องชนะให้ได้ทั้งหมด และด้วยกฎเกณฑ์นี้จะมีเพียง 2 ทีมหรือน้อยกว่านั้น ที่สุดท้ายอาจได้งัดกันในกฎที่ว่านี้

3. พิจารณาด้วยการนับประตูได้-ประตูเสีย

กฎข้อนี้ดูมุมไหน เหลี่ยมไหน “ปลากัด” ดูดีที่สุด ซึ่งหากหลุดมาถึงเงื่อนไขนี้ก็ดูจะไม่เป็นปัญหากับการที่ทีมแกร่งเมืองแปดริ้วจะตีตั๋วไปทัวร์ทั่วไทย เหตุเพราะประตูได้เสียที่ยังบวกถึง 20 ประตู

4. พิจารณาประตูได้

ในข้อนี้ก็เช่นกันที่ดูๆ แล้วใน 2 นัดท้ายคงไม่มีทีมใดหาญกล้ายิ่งสลุตจนแซงยอดทำประตูรวมที่ 47 ประตูของฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ลงได้โดยง่าย และดูไม่น่ามีปัญหาอันใดที่ทีมแกร่งเมืองแปดริ้วจะได้ไปโชว์ตัวในรอบ ชปล.

5. เตะเพลย์ออฟ ณ สนามกลาง เพื่อหาทีมสู่รอบ ชปล.

ว่ากันตามหลักความจริงเป็นไปยากมาก เพราะเมื่อพิจารณาจากกฎที่ไล่มา 1-4 และดูแนวโน้มทั้งหมดแล้ว โอกาสที่จะมีแมตช์ที่ 27 เพื่อชี้ชะตา ดูน้อยเต็มทน

ซึ่งทั้ง 5 ข้อที่กล่าวมานี้คือกติกาที่จะหาทีมสู่รอบ ชปล. ในกรณีที่แต้มเท่า ซึ่ง ณ เวลานี้ทีมที่กุมชะตาตัวเองไว้ในมือ ไม่พ้น ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ที่มีคะแนนมากที่สุดในเวลานี้ แต่อย่างไรก็ตาม “อุบัติเหตุ” ก็เป็นสิ่งที่พึงระวังเช่นกัน ในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่ออย่างนี้ที่ทุกคะแนนมีค่าสูงสุด ซึ่งหากไล่เรียงโปรแกรม 2 นัดท้ายของ 4 แคนดิเดต ที่เหลืออยู่มีดังนี้

ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ปัจจุบันมี 45 คะแนน
นัดที่ 25 เยือน กองเรือยุทธการ
นัดที่ 26 เยือน จันทบุรี เอฟซี

ถามตรงๆ ว่ามี “โอกาส” สะดุดหรือไม่ ขอตอบเลยว่า “มี” แน่นอน ซึ่งหากไม่เหนือกว่าที่คาดจริงจะมี 1 นัดแน่ๆ ที่ “ปลากัด” มีโอกาสพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเกมนัดส่งท้ายฤดูกาลที่พวกเขาจะต้องกรีฑาทัพบุกเมืองจันทบุรี เพื่อการันตีอันดับ 2 แม้ในเรื่องของกำลังใจ ความมั่นใจทีมในเพลานี้มีเกินร้อย

แต่เกมเยือนคำถามในเรื่องผลงานยังมีอยู่ การที่ต้องเล่น ท่ามกลางแดดร้อนจ้า (หรือจะเป็นฝนฟ้าคะนองกระจายเพื่อเข้าสถานการณ์) แต่กระนั้นทีมสีแดงเพลิงนี้ก็ยังถือแต้มต่อคู่แข่งลุ้นตั๋ว ชปล. พอสมควร โดยเฉพาะกับการที่ยิงกระจายมาตลอดปี

สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ปัจจุบันมี 44 คะแนน
นัดที่ 25 เยือน ปราจีน ยูไนเต็ด
นัดที่ 26 เหย้า กองเรือยุทธการ

ต้องชนะเท่านั้น นั่นคือเงื่อนไขเดียวที่จะส่งผลให้อดีตแชมป์ปี 2009 ยังมีลุ้นจนวินาทีท้ายในนัดสุดท้าย นั่นคือสิ่งแรกที่ขุนพล “ป้อมปราการ” จะต้องทำให้ได้

ซึ่งหากมองดู 2 นัดท้ายคงปฏิเสธไม่ได้ว่านัดเยือน จ.ปราจีนฯ มีความหมายอย่างสูงสุด ซึ่งหากสามารถบุกไปควักสามแต้มจากถ้ำเสือมาได้ หลายเสียงต่างยกให้ทัพฟ้า-ขาว มีโอกาสปาดหน้าแซงคว้าตั๋ว เพราะด้วยพิกัดคู่แข่งในนัดท้ายไม่ได้หนักนัก แต่กระนั้นคำถามก็วกกลับมาที่ว่าจะมีปัญญา “ชนะ” ปราจีน ยูไนเต็ด หรือไม่ …

ปราจีน ยูไนเต็ด ปัจจุบันมี 43 คะแนน
นัดที่ 25 เหย้า สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี
นัดที่ 26 เยือน นครนายก เอฟซี

คล้ายๆ กับคู่แข่งในวันเสาร์นั่นคือพลาดไม่ได้อีกแล้ว ไม่ว่าจะกรณีใดๆ ก็ตาม ถามว่า “แชมป์เก่า” มีโอกาสอยู่ไหม แน่หล่ะหากสามารถเก็บ 3 แต้มในเกมสำคัญที่จะเปิดรังพบ สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ได้สำเร็จ แต่หากหลุดเพียงเสมอนั่นอาจส่งผลให้ทั้งสองทีมพากันลงเหว ชนิดไม่มีลุ้นในนัดท้ายอีกต่อไป

ชัดเจนว่าเกมวันเสาร์สำคัญกับ “เสือดำ” ไม่ได้ต่างจากผู้มาเยือน ซึ่งหากเกมนัดนี้ผ่านไปได้ราบรื้นโอกาสในการลุ้นแชมป์ยังพอมีเมื่อเกมนัดท้ายในการไปเยือน “นักรบขุนด่าน” ในพ.ศ. นี้ดูไม่ใช่งานยากเกินจินตนาการนัก

จันทบุรี เอฟซี ปัจจุบันมี 42 คะแนน
นัดที่ 25 เยือน นย. มาบตาพุด เอฟซี
นัดที่ 26 เหย้า ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี

จันทบุรี เอฟซี นาทีนี้หากเก็บชัยชนะได้ทั้งหมดก็ยังเข้าเค้าว่าอาจได้ไปลุยในรอบ ชปล. เช่นกัน ซึ่งกวาดตามองดูโปรแกรม 2 นัดท้าย ทั้งสองนัดออกมาได้ 3 หน้าทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามยังมั่นใจว่า “กระทิงป่า” อาจลุ้นได้จนถึงนัดท้าย โดยหากทำได้สำเร็จจริง ต้องบอกว่ามีลุ้นไม่น้อย โดยต้องอาศัยเงื่อนไขพิเศษในการผ่านสู่ รอบ ชปล. กันเลยทีเดียว

แต่แตะเบรกไว้ก่อนว่านั่นคือในกรณีที่ผลเกมนัดที่ 25 ที่ปราจีน พบ สมุทรปราการ ออกมาหน้าเสมอเท่านั้น หากผิดไปจากนั้นคงต้องบอกว่า “โอกาส” นั่นเท่ากับว่าลุ้นให้ทีมตัวเอง “ชนะ” ทั้งหมดแล้ว ยังต้องลุ้นผลในสนามอื่นเพื่อต่อลมหายใจต่อไปนั่นเอง...

สุดท้ายทีมไหนอยากจะไปเงื่อนไขแรกที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนนั่นคือการ ชนะ เท่านั้น จะมีดราม่า น้ำตาตกที่ไหนกันบ้าง นั่นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

เขียนกันให้อ่านพอเพลินๆ ที่ไม่รู้ว่าสุดท้าย “หวย” จะออกที่ทีมใด สุดท้ายทีมไหนอยากจะไปเงื่อนไขแรกที่ต้องทำให้สำเร็จก่อนนั่นคือการ ชนะ เท่านั้น จะมีดราม่า น้ำตาตกที่ไหนกันบ้าง นั่นคือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ และจะมีเพียง 1 เดียวเท่านั้นจริงๆ ที่หยิบโควตาสุดท้าย พร้อมตาม ระยอง เอฟซี ไปสู่รอบ ชปล. สุดท้ายคงต้องปล่อยเป็นเรื่องของเกมกีฬาที่เป็นตัวตัดสินเท่านั้นเอง ขอให้ทุกท่านชมเกมสัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้าซึ่งเป็นนัดปิดฤดูกาลกันให้สนุกครับ...