ทางตรงสุดท้ายกับตั๋วสู่รอบ ชปล.

เข้าสู่ช่วง 400 เมตรสุดท้ายอย่างแท้จริง สำหรับมหกรรมฟาดแข้งที่ดวลกันมานับแต่เดือนกุมภาพันธ์ในศึก ดิวิชั่น 2 โซนภาคกลางตะวันออก

ซึ่งก่อนที่จะกล่าวถึงบรรดาทีมที่ยังลุ้นไปต่อ ก็ขอละพื้นที่เพื่อแชมป์ฤดูกาล 2015 ระยอง เอฟซี ที่โชว์ผลงานได้ยอดเยี่ยมชนิดไร้คู่ต่อกรตลอดเส้นทาง และคว้าแชมป์ได้อย่างหมดจดตั้งแต่ยังไม่จบฤดูกาล (นัดที่ 22) ซึ่งการผงาดคว้าแชมป์ดังกล่าวนับเป็นครั้งแรกในหน้าประวัติศาสตร์ของยอดทีมเมืองระยองอีกด้วย ทาง “ป้อมปราการ” ก็ขอแสดงความยินดี และชื่นชมในมาตรฐานการเล่นตลอดฤดูกาลนี้อย่างจริงใจ…

^{_{ขอบคุณภาพ Rayong FC. Photo Match}}

กลับมาว่ากันต่อถึงเส้นทางสู่ยอดปรารถนา ที่ทีมไหนๆ ต่างถวิลหาหมายครอบครอง ณ เวลานี้ที่เหลือที่ว่าง 1 ที่สำหรับ 1 ทีมที่ดีรองจากแชมป์ แต่ทีมไหนหล่ะที่จะได้ครอบครองเจ้าตำแหน่งอันดับ 2 ที่ว่า ยากจะคาดเดาจริงๆ ถามว่าในเวลานี้ยังเหลือทีมไหนได้ลุ้นกันบ้าง คงต้องกระชับพื้นที่ไว้เพียงอันดับ 2 ถึง 6 เท่านั้น 

^{_{ขอบคุณภาพ Tanaka Moikkai}}

เริ่มกันที่สนามกีฬากลาง จ.จันทบุรี ที่เป็นการพบกันที่มีความหมายของทั้งสองทีมไม่ว่าจะเป็น จันทบุรี เอฟซี หรืออันดับ 2 เวลานี้อย่าง ปราจีน ยูไนเต็ด และอย่างที่ทราบกัน “กระทิงป่า” มีแรงกระหายไม่น้อยโดยเฉพาะการลงเล่นในรังสร้างปัญหาให้แชมป์เก่าไม่น้อย และผล 3-1 ที่ออกมา ก็ทำให้ จันทบุรี เอฟซี ยังอยู่ในเส้นทางต่อไป แถมยังช่วยสร้างความหวังเล็กๆ แกผู้ตามไม่น้อย

^{_{ขอบคุณภาพ Chachoengsao FC}}

ด้านอีกหนึ่งทีมฟอร์มร้อนที่หมายมั่นว่าจะลิ่วรอบ ชปล. อย่างจงหนัก เกือบจะจอดป้ายเหตุไฟขัดข้อง แต่ยังดีที่สุดท้ายแก้ปัญหากันได้ทันควัน การเล่นท่ามกลางแฟนบอลหลักพันแม้รูปการในสนามออกมาไม่ง่ายนัก แต่ทว่าสุดท้ายจบเกม “ปลากัดนักสู้” ฉะเชิงเทรา ไฮเทค เอฟซี ก็ยังชนะ ทวีวัฒนา เอฟซี ได้ตามเป้าหมาย พร้อมขยับใกล้พื้นที่ ชปล. เหลือเพียง 1 แต้มเท่านั้น

ผู้ตามอีกทีมที่ไม่พูดถึงไม่ได้เนื่องจากเป็นเจ้าของคอลัมน์อย่าง “ป้อมปราการ” ออกสตาร์ทแมตช์ด้วยรอยยิ้ม ก่อนจบแมตช์เล็บแทบกร่อน สกอร์ 4-3 คงพอบอกความน่าอึดอัดได้มากเพียงใด เพราะเกมนัดดังกล่าวเวลาผ่านเพียง 20 นาทีเศษ เจ้าบ้านนำถึง 2-0 ตรงนี้ก็ต้องชื่นชมทีมพลังหนุ่ม พานทอง เอฟซี ที่ไม่ยอมแพ้ และสร้างปัญหาหนักใจให้เจ้าบ้านได้มากมาย เท่ากับ 2 นัดหลังสุดทีมแกร่งเมืองปากน้ำ “ชนะ” ในเกมที่ยากๆ ทั้งนั้น นั่นก็ยิ่งสร้างแรงฮึดได้ไม่น้อย แถมช่องว่างที่เคยห่าง 5 ตอนนี้ขยับใกล้เพียง 2 แต้มชัดเจนว่าผลเพียงนัดหนึ่งอาจเหวี่ยงทีมกลับไปยืนที่ 2 อย่างที่เคยก็เป็นได้

ส่วนผู้ตามที่รั้งท้ายในทีมกลุ่มลุ้น ชปล. อย่าง “เทพกริฟฟิน” น่าสนใจว่าสลัดความผิดหวังจากนัดก่อนได้เร็วเหลือเกิน การบุกไปชนะ นครนายก เอฟซี ไม่เกินคาดก็จริง แต่สกอร์ที่ออกมาขาด 0-3 นั่นก็พอบอกได้ว่า แก่งคอย ทีอาร์ยู ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ แน่ แม้ในทีมกล่มลุ้นพื้นที่ ชปล. ดูจะยากที่สุด เพราะต้องลุ้นให้ 4 ทีมที่กล่าวถึงก่อนหน้านี้สะดุด โดยที่ 4 นัดสุดท้าย น้องใหม่ใน ด.2 ไม่มีโปรแกรมที่จะต้องตัดแต้มกับทีมในโซนนำด้วยกันด้วย นั่นคงต้องยอมรับแบบกลายๆ ว่า “โอกาส” ของลูกทีม “โค้ชโป้ง” นั้นเหลือน้อยเต็มทน

คะแนนที่ตามๆ กันไม่ห่างไม่เกิน 5 แต้มนั้นยังคงบอกไม่ได้ว่าสุดท้ายทีมใดจะเข้าป้าย เพราะ 4 นัดจากนี้คู่แข่ง สนามแข่งขัน แตกต่างกันไป คงอยู่ที่ว่าทีมใดจะรักษามาตรฐานตนได้ดีกว่ากัน สำหรับสัปดาห์ที่ 23 หากกวาดตามองดูภาพกว้างๆ ทั้ง 5 ทีมที่ยังประกาศตนหวังลุ้นตั๋วไม่มีทีมใดเจองานหินมากมายนัก และไม่มีการตัดแต้มกันเองอย่างในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา

กระนั้นเพราะ “ฟุตบอล” มีสเน่ห์อยู่อย่างตรงที่มักมีเรื่องเหนือคาดให้เห็นอยู่ตลอดเวลา นั่นก็เป็นการกระตุ้นเตือนกลายๆ ว่า ณ เวลานี้ความผิดพลาดเพียงเล็กน้อยอาจส่งผลให้เส้นทางสู่รอบ ชปล. ที่ทำมาตลอดจบลงง่ายๆ ฉะนั้น 4 นัดท้ายนี้ไม่มีเวลาพอให้ได้แก้ตัวอีกแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ 23 ผ่านพ้นไปผู้ท้าชิงอาจลดลงก็เป็นได้...