บทความ: จ่าฝูงนาทีนี้

เสียงร้องด้วยความยินดียังคงกึกก้องในสมองของสาวก ฟ้า- ขาว เป็นแน่แท้ ยิ่งเสียงตะโกนโดยพร้อมเพรียงว่า “จ่าฝูง จ่าฝูง จ่าฝูง” หลังผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาว เป็นสัญญาณหมดเวลาการแข่งขันนั้น มั่นบ่งชัดว่าการที่ทีมก้าวมาถึงหัวตารางเหนือคู่แข่งไหนๆ นั้นมีความสำคัญกับแฟนบอลมากมายเพียงไร...

_{กลุ่มกองเชียร์ที่น่ารัก จงรักภัคดี และเหนี่ยวแน่นที่สุด}

ก่อนเกมบรรยากาศคึกคัก ที่แม้จะเป็นเกมเยือนทว่า “พลังศรัทธา” จากแฟนบอลก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด คงไม่เกินไปนักที่จะกล่าวว่านี่คือกลุ่มกองเชียร์ที่น่ารัก จงรักภัคดี และเหนี่ยวแน่นที่สุด ยังคงตามมาเชียร์ในวันที่อากาศร้อนๆ บวกกับอัฒจรรย์ที่หันหน้าสู้แสงอาทิตย์ยามบ่าย และที่ทุกคนตามมาร่วมเป็นสักขีพยานในเกมวันนี้ ก็เพราะต่างรู้อยู่ในอกว่า หากคว้าชัยในนัดนี้สำเร็จ ทีมจะขึ้นนำเป็นจ่าฝูง!!!

ที่ทุกคนตามมาร่วมเป็นสักขีพยานในเกมวันนี้ ก็เพราะต่างรู้อยู่ในอกว่า หากคว้าชัยในนัดนี้สำเร็จ ทีมจะขึ้นนำเป็นจ่าฝูง

ผู้ตัดสินเป่านกหวีดยาวเป็นสัญญาณเริ่มการแข่งขัน โดยวันนี้ฝั่ง “ป้อมปราการ” โดย “โค้ชโม” อภิชาติ โมสิกะ บรมกุนซือยังยึดระบบเดิม ที่ใช้มาต่อเนื่อง แต่ปรับผู้เล่นในบางตำแหน่งเพื่อเอาไว้ใช้เด็ดหัวคู่แข่ง หนึ่งในจุดน่าสนใจในแผนช่วงต้นเกมนั่นคือ การปล่อย ไบร์ท เอบูซอร์ ลงสนามในฐานะ 11 ตัวแรก พ่วงด้วย สตีเฟ่น ดอลล่าห์ ที่พร้อมโจมตีด้านข้าง

ที่น่าแปลกใจนั่นคือเกมนัดนี้ผู้เล่นในทีมทุกรายดูจะสู้แดด ต่างจากที่เคย และสามารถเดินเกมรุกสืบเท้าเข้าหาคู่แข่งได้ตั้งแต่วินาทีแรกๆ ของเกม ยิ่งไปกว่านั้นเมื่อเข็มนาฬิกาเดินไปถึงนาทีที่ 6 ประตูแรกก็เกิดขึ้นจนได้

เมื่อ ถนอม แสงจันดา แบ็กขวากัปตันทีมเติมขึ้นมาด้านกราบขวา บรรจงครอสเข้ามาหน้ากรอบโทษ จังหวะนี้เหมือนแนวรับเจ้าถิ่นจะยังขาดสมาธิในการป้องกัน

ทำให้ไม่มีใครตามประกบศูนย์หน้าผู้ครองสถิติหากลั่นไกเมื่อไหร่ทีมไม่เคยไร้แต้ม และไม่เป็นปัญหาที่ ไบร์ท จะลอยตัวโขกย้อนศรพาทีมขยับสกอร์ จากโอกาสลุ้นประตูครั้งแรกของเกมเข้าไป

ทุกอย่างดูเหมือนเป็นใจในวันที่แสงแดดยังคงสาดส่องอย่างไม่ลดละ สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ก็ทำท่าจะได้ลูกที่สองต่อเนื่อง แต่ทว่ายังขาดๆ เกินๆ กันไป ด้าน ทวีวัฒนา เจ้าบ้านก็ไม่ได้ดูจะคุกคามเราได้มากมายนัก โดยในครึ่งเวลาแรกสถิติบ่งชี้ว่าเจ้าบ้านยิงไม่เข้ากรอบเลยด้วยซ้ำ

ทว่าฟุตบอลลูกกลมๆ อะไรๆ ก็ไม่แน่นอน มาเริ่มกันใหม่ในครึ่งหลัง เกมชักเริ่มน่าสนใจขึ้นเมื่อเจ้าบ้านเริ่มออกลูกบู๊ วิ่งไล่กวดบอลมากขึ้น ผิดกับทีมเยือนที่เหมือนกับจะเปรี๊ยแดดไปดื้อๆ ทำให้ ทวีวัฒนา เริ่มได้จังหวะเข้าทำกว่าในครึ่งเวลาแรก

แม้โดยรวม “ป้อมปราการ” เองก็ได้จังหวะโต้สวยๆ หลายครั้ง ทว่าปัญหาเดิมๆ ยังคงอยู่ แนวรุกยังไม่เฉียบขาดในจังหวะสุดท้ายทำให้ สกอร์ยังตรึงที่ 0-1

เมื่อทำเพิ่มไม่ได้ก็อย่าเสีย “โค้ชโม” ตัดใจถอด ไบร์ท เอบูซอร์ ที่เก็บบอลไว้กับตัวได้ดีออกมาพัก พร้อมส่ง วัชรพงษ์ วงษ์ศรีแก้ว มิดฟิลด์ตัวรับขนานแท้ลงแพ็คแดนกลางให้แน่นขึ้น แต่กลับกลายเป็นว่าการวางเกมอย่างนี้ยิ่งจะเรียกแขกให้สาวเท้าเข้าใส่มากยิ่งขึ้น เหตุเพราะไม่ต้องพะวงกับแนวรุกที่ในเวลานี้เวลานั้นเหลือเพียง สตีเฟ่น ดอลล่าห์ ค้ำรอสวนเพียง 1 เพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

เข้าสู่ช่วง 20 นาทีท้ายแนวรับ “ป้อมปราการ” ต้องรับภาระหนักขึ้น เมื่อแดนกลางที่คอยขับเคลื่อนเกม เริ่มไม่สามารถคุมแดนกลางอยู่มือ ผิดกับเจ้าบ้านที่ไม่มีอะไรจะเสีย เปลี่ยนผู้เล่นสำรองเพิ่มประสิทธิภาพเกมรุก หวังตามตีเสมอให้สำเร็จ

_{ผู้ตัดสินอีกหนึ่งตัวแปรที่เกือบพับแผนจ่าฝูงของป้อมปราการ}

แล้วแผนขึ้นแท่นจ่าฝูงของ “ป้อมปราการ” ก็มาพังพาบลง เมื่อเข็มนาฬิกาเดินเข้าสู่ช่วง 10 นาทีท้าย เป็นจังหวะที่กำแพงฟ้า-ขาว เคลียร์บอลออกมาเข้าทางแดนกลางทวีวัฒนา ที่เลือกทำในสิ่งง่ายๆ ที่แนวรับทีมเยือนเองก็คาดไม่ถึงเมื่อ บอมบ์สวนกลับเข้ามาในกรอบโทษ บอลถูกเสยต่อไปพื้นที่ว่างหน้าประตู แล้วก็เป็น อดิศักดิ์ พลสิทธิ์ แนวรุกทวีวัฒนา ที่ได้ลองสับไกมาแล้วหลายครั้ง ไม่พลาดสังหารประตูอย่างเลือดเย็น ส่งอัฒจรรย์ฟ้า-ขาว เงียบเป็นเป่าสาก

อะไรๆ ที่เหมือนจะง่ายในช่วงต้นเวลานี้แทบมองไม่เห็น ทวีวัฒนา ที่กำลังคึกหวังเผด็จศึกคู่แข่งย้อนรอยเกมล่าสุดอีกครั้ง และดูเหมือนยิ่งเวลาผ่านเสียงนกหวีดก็ดูจะโอนเอียงเข้าหาเจ้าบ้านชนิดไม่ขาดตอน

ด้านทีมเยือนเอง รู้ว่า 3 แต้มในเกมนี้มีความหมายไม่น้อย ทำให้กุนซือปราการ เลือกปรับระบบทันที พร้อมทิ้งไผ่ใบสุดท้ายที่ชื่อ แฟรงค์ เรโน่ ลงสนาม ปรับหมากมาใช้หน้าคู่หวังยิงประตูชัยให้ได้เช่นกัน

เกมกลับมาระทึกในช่วง 5 นาทีท้าย ทังสองทีมเดินหน้าเข้าใส่กันด้วยแรงที่ถดถอย และมีโอกาสลพลิกสถานการณ์ด้วยกันทั้งคู่ แต่ด้วยประสบการณ์และสมาธิในเกมที่มากกว่าของกลุ่มแข้งสมุทรปราการ ก็ส่งผลให้ทีมออกนำอีกครั้ง เมื่อ ถนอม แสงจันดา หยอดลูกตั้งเตะจากระยะร่วม 40 หลา เข้าไปในกรอบโทษ

_{แฟรงค์ เรโน่ ตีลังกาด้วยความสะใจ หลังพังประตูชัยให้ทีมในนาทีสุดท้าย}

เป็นอีกครั้งที่ไม่มีกองหลังทวีวัฒนา กระโดดป้องกันจังหวะนี้เลย ส่งผลให้ เรโน่ ที่กำลังสดหลังเพิ่งลงสนามได้แค่ไม่กี่นาที ลอยตัวขึ้นโขก โล่งๆ คนเดียวเข้าไป ทำให้จบเกม สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ยังทำได้ตามเป้าในเกมที่ลำบากกว่าที่คาด จากประตูที่เกิดขึ้นในช่วงต้น และท้ายเกม ซึ่งเหตุที่ทีมคว้าชัยในที่สุด ที่มองเห็นได้ชัดคือสมาธิในเกมที่ฝั่งเจ้าบ้านยังมีหลุดให้เห็น

สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ยังทำได้ตามเป้าในเกมที่ลำบากกว่าที่คาด จากประตูที่เกิดขึ้นในช่วงต้น และท้ายเกม ซึ่งเหตุที่ทีมคว้าชัยในที่สุด ที่มองเห็นได้ชัดคือสมาธิในเกมที่ฝั่งเจ้าบ้านยังมีหลุดให้เห็น

ถือเป็นเรื่องน่ายินดีกับชัยชนะที่ส่งให้ทีมขึ้นนำจ่าฝูงประจำสัปดาห์ครั้งแรกในรอบ 5 ปี โดยครั้งสุดท้ายเกิดขึ้นเมื่อวันที่ทีมเถลิงแชมป์ฤดูกาล 2009 นั่นเอง

แต่ทว่าอย่างไรก็ตามโดยรวม “การบ้าน” กองพะเนิน ยังรอให้ตัวกุนซือต้องปรับแก้กันต่อไป และการขึ้นมายืนในตำแหน่งนี้ก็ไม่ใช่ว่าภารกิจของฤดูกาลจะสิ้นสุดลง แต่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเพราะนี่คือ 1 ใน 3 ของเส้นทางครึ่งฤดูกาลแรกเท่านั้น

_{โค้ชโมยังมีการบ้านอีกเพียบ หากหวังพาทีมสู่ความสำเร็จ}

อย่างไรก็ตามการที่การกลับมายึดจ่าฝูงของสมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี ในเวลานี้ ไม่ใช่เพียงภาพมายา แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นผ่านการ การรอคอย ความอดทน ความผิดหวัง ฯลฯ

การที่ทีมก้าวมาถึงบนสุดของตาราง ก็น่าสนใจยิ่งขึ้นว่าในเกมต่อๆ ไป จ่าฝูง สมุทรปราการ สองสิงห์ เอฟซี นี้จะก้าวเดินไปในทิศทางใด เมื่อคู่แข่งร่วมลีกก็ดี ความคาดหวังก็ดี แรงกดดันก็ดี ต่างจับจ้องมองมาหวังเตะก้อนความฝันของชาวฟ้า-ขาว ลงกองขยะ

ซึ่งตรงนี้คืองานที่ทีมสตาฟฟ์ และนักเตะทุกคนจะต้องช่วยกัน มุ่งมั่น รักษา และปกป้องจ่าฝูงนาทีนี้ไว้ให้ได้จนจบฤดูกาล ไม่เช่นนั้น การก้าวมาถึงจุดนี้คงไร้ค่า และคงเป็นแค่เพียงความยินดีเพียงชั่วคราวที่เพียงผ่านมา และผ่านไป...
 

ขอบคุณภาพ SonOfLight